คำว่า “ไม่เป็นไร” อย่าท่องจนติดปากว่า “Never mind.” แค่เพียงประโยคเดียวนะครับ
เพราะจริงๆแล้วประโยคที่ว่า “ไม่เป็นไร” ในภาษาไทยของเรามันใช้ได้กับ (อย่างน้อย) 2-3 เหตุการณ์ที่แตกต่างกัน แล้วในภาษาอังกฤษเขาก็ไม่ได้ใช้คำเดิมว่า “ไม่เป็นไร” นี้ กับทุกเหตุการณ์ด้วย ดังนั้นเพื่อความถูกต้อง คุณควรจะเห็นภาพของเหตุการณ์ แล้วก็ใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกตามภาพด้วย เพื่อการสื่อสารที่ถูกต้องนะครับ
ผมจะยกตัวอย่างเหตุการณ์ง่ายๆ ในคุณได้คิดเป็นภาพแล้วจำประโยคไปใช้ให้ถูกต้องก็แล้วกันนะครับ
1.) A: Thank you so much for your help. ขอบคุณมากนะที่คุณช่วยดิฉัน
B: You’re welcome. ด้วยความยินดีครับ หรือไม่เป็นไรหรอกครับ
B: (หรือ) Don’t mention it. โอ๊ย! อย่าไปพูดถึงมันเลยครับ ไม่เป็นไรหรอก
B: (หรือ) It’s okay. ไม่เป็นไรหรอกครับ
B: (ผิด ... ห้ามพูดเด็ดขาด) Never mind. (หลายคนท่องติดปากว่า Never mind. แปลว่า “ไม่เป็นไร” ก็เลยใช้ผิดกันเยอะมาก)
2.) ประโยคว่า “Never mind.” ที่แปลว่า “ไม่เป็นไร” นี้ เอาไว้ใช้ในเหตุการณ์ที่ เราจะหมายถึงว่า “ช่างมันเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย อย่าไปสนใจมันเลย มันไม่ได้สำคัญอะไรหรอก” ยกตัวอย่างเช่น
A: “เมื่อกี๊นี้ คุณพูดว่าไงนะ” What did you say?
B: “ช่างมันเถอะ” Never mind. (คือว่าเสียงในห้องมันจ็อกแจ็กดังมาก คุณพูดไปสองสามรอบแล้วอีกฝ่ายหนึ่งเขาก็ไม่ได้ยินสักที แล้วคุณก็คิดว่าไอ้สิ่งที่คุณจะพูดนั่นน่ะมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรสักเท่าไหร่ คุณก็เลยพูด Never mind. แปลว่า "ช่างมันเถอะ")
A: “แย่จังเลย เราทำงานพลาดอ่ะ” What did you say It’s too bad – we failed.
B: “ช่างมันเถอะ อย่างน้อยเราก็ได้ลอง” Never mind. At least, we tried.
A: “ขอโทษนะที่ฉันทำรถของเธอเสียหายอ่ะ” Sorry for the car damage.”
B: “เรื่องรถอ่ะ ช่างมันเถอะ เธอปลอดภัยก็ดีแล้ว” Never mind about the car. You’re safe and that’s the main thing.
เขียนโดย อ. พิบูลย์ แจ้งสว่าง
วันที่: Thu Jan 09 17:37:57 ICT 2025
|
|
|